"คุรุสภา"เดินหน้ายกเครื่องตั๋วครูเสียงแตกมองต่างมุม"หนุน-ค้าน"

นายดิเรก พรสีมา ประธานคณะกรรมการคุรุสภา เปิดเผยถึงความคืบหน้าการปรับเปลี่ยนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู โดยจะแยกออกเป็นใบอนุญาตครูปฐมวัย ครูประถม ครูมัธยม รวมถึงแบ่งออกเป็นใบอนุญาตตามรายวิชา อาทิ ครูสอนวิชาฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ ฯลฯ ส่วนครูอาชีวศึกษา จะแยกออกเป็นใบอนุญาตครูผู้สอนตามสาขาวิชา เช่น วิชาช่าง เกษตร บริหาร ว่าเรื่องดังกล่าวยังไม่ได้ข้อสรุป จึงยังไม่ได้นำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการคุรุสภาพิจารณา ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบถามความคิดเห็นภาคส่วนต่างๆ โดยเบื้องต้นพบว่าความคิดเห็นยังแยกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งเห็นว่าควรมีใบอนุญาตฯใบเดียวตามเดิม เพราะหากแยกเป็นรายวิชาจะสร้างปัญหาให้โรงเรียน เป็นเงื่อนไขให้ครูไม่ยอมสอน ทั้งที่เรามีปัญหาขาดครูมากอยู่แล้ว ขณะที่อีกฝ่ายเห็นด้วยเพื่อจะได้มีมาตรฐานมากยิ่งขึ้น ทำให้ได้ครูเฉพาะทาง ซึ่งหลายๆ ประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่พัฒนาแล้วครูจะมีใบอนุญาตฯเฉพาะทางเกือบทั้งหมด ทั้งนี้ เรื่องนี้คงต้องหารือร่วมกันต่อไป เพราะหากจะปรับเปลี่ยนจริงๆ จะต้องไปแก้ข้อบังคับมาตรฐานความรู้วิชาชีพครู 9 มาตรฐาน และปรับปรุงใหม่ให้สอดคล้องกับมาตรฐานใหม่

ด้านนายสมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ใบอนุญาตฯปัจจุบันเหมาะสำหรับครูระดับประถมและมัธยมศึกษาตอนต้น ซึ่งเป็นช่วงของการปูพื้นฐานวิชาต่างๆ แต่เมื่อถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ตนเห็นด้วยว่าควรจะแยกออกเป็นรายวิชา เพราะโลกในอนาคตต้องการครูที่มีทักษะความเชี่ยวชาญเฉพาะทางมากขึ้น ที่สำคัญต่อไปการขอใบอนุญาตฯมีความชัดเจนมากขึ้น คนที่เรียนครูสามารถเลือกเรียนในวิชาที่สนใจมากขึ้น ขณะที่สถาบันฝ่ายผลิตครูก็จะต้องปรับปรุงการเรียนการสอนในแต่ละวิชาให้เข้ม ขึ้นเพื่อผลิตครูให้ได้มาตรฐานตามที่กำหนด ส่วนกรณีที่มีผู้คัดค้าน เพราะกังวลว่าหากแยกใบอนุญาตฯเป็นรายวิชา จะทำให้ครูไปสอนวิชาอื่นไม่ได้และกลัวจะขาดแคลนครูมากขึ้นนั้น ตนเห็นว่าขณะนี้ทุกภาคส่วนกำลังเร่งแก้ปัญหาขาดแคลนครูอยู่แล้ว เชื่อว่าในอนาคตปัญหาเหล่านี้จะค่อยๆ เบาบางลง ดังนั้น จึงไม่อยากให้มองที่ปัญหาเป็นตัวตั้ง แต่อยากให้มองถึงอนาคตมากกว่า

"การปรับเปลี่ยนการขอใบอนุญาตฯจะทำให้สถาบันฝ่ายผลิตครูต้องคิดว่าจะปรับ ตัวอย่างไร ที่จะพาครูไปสู่วิชาชีพอย่างมีคุณภาพ ซึ่งถือเป็นเรื่องดี แต่หากเราไปกังวลและคิดถึงปัญหาเป็นที่ตั้ง จะทำให้ก้าวไปไหนไม่ได้เหมือนถูกบล็อก" นายสมพงษ์กล่าว
ที่มา:หนังสือพิมพ์มติชน

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

 
KruApiwat © 2010 | Designed by Chica Blogger | Back to top